ชอบสืบนักเดี๋ยวก็รักซะเลย 1(บทนำ) - นิยาย ชอบสืบนักเดี๋ยวก็รักซะเลย 1(บทนำ) : Dek-D.com - Writer
×

    ชอบสืบนักเดี๋ยวก็รักซะเลย 1(บทนำ)

    ผู้เข้าชมรวม

    32

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    32

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  สืบสวน
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  16 ก.ค. 57 / 00:00 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ชอบสืบนักเดี๋ยวก็รักซะเลย

    บทนำ

    เช้าวันหนึ่ง  ที่บ้านของเรจิ  ประเทศญี่ปุ่น

    บาย จ๊ะลูกรักของแม่ขอให้มีความสุขกับบ้านใหม่นะแม่พูดกับลูกชายอย่างอาลัยอาวรที่ลูกชายคนเดียวของตระกูลโยชิโอกะ ตระกูลที่เป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีของณี่ปุ่นซึ่งได้ทุนเรียนฟรีที่ประเทศไทยแต่บ้านที่เขาต้องไปอยู่มีเพียงข้อมูลที่บอกว่าเธออยู่คนเดียวในเมืองหลวงเท่านั้นจึงทำให้เขารู้สึกไม่มั่นใจยังไงไม่รู้เกี่ยวกับเรี่องของเธอคนนั้นแต่เขาก็ต้องทำใจเพราะเขาไปแอบฟังพ่อแม่พูดกับคนดูแลที่พักว่าเธอก็อายุเท่ากับลูกชายคุณนั้นแหละ

    เช้าอีกวันที่  บ้านของนิล  ประเทศไทย

    โอ๊ย! น่าเบื่อที่สุดเลยสาวน้อยวัย 12 ปีนามว่านิลกาล หรือนิล ผู้มีผมดำเงาสลวย  ผิวสีขาวแสดงถึงชาติตระกูลที่ดี  นัยตาสีดำเป็นประกาย ตะโกนออกมาอย่างสุดจะทนในความน่าเบื่อของชีวิตในช่วงปิดเทมอใหญ่ที่ไม่มีอะไรจะทำหลังจากทำการบ้านที่กองเป็นภูเขาสูงเสียดฟ้าจากทั้งที่โรงเรียนหลักและโรงเรียนพิเศษในเวลาที่เร็วคือภายใน 3 วันซึ่งแน่นอนไม่เคยมีใครเคยทำได้มาก่อนแน่ดังนั้นช่วงก่อนจะถึงสัปดาห์หนังสือเธอจึงว่างงานเป็นอย่างยิ่ง

    กิ๊งก่อง  กิ๊งก่อง

    เสียงออดที่หน้าบ้านดังขึ้นจนทำให้สาวน้อยต้องลุกออกมาเปิดประตู  ทันใดนั้นเองสิ่งที่สาวน้อยเจอคือชายหนุ่มอายุประมาณ 30 ปี  ใส่สูทสีเทาทั้งตัวและเมื่อมองข้ามไหล่ของชายหนุ่มไปจะพบรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า สีขาวจอดอยู่ไม้ไกลทันใดนั้นเองนิลก็พบกับชายหนุ่มผมทองประมาณอายุไม่เกินไปจาก 14 ปีเพราะความสูง  และใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์ดึงอายุลงไปอีกจาก14จึงกลายเป็น12และข้างๆก็มีคนวัยกลางคนใส่ชุดสูทสีอ่อนกว่าคนข้างหน้ายืนก้มหัวให้ จึงช่วยให้สาวน้อยฉุดคิดไปไกลถึงเมื่อ 3 วันก่อน

    ย้อนไปเมื่อ 3 วันก่อน

    เอ๋นิลอุทานขึ้นมาเพราะจู่ๆก็มีจดหมายเขียนเป็นภาษาอังกฤษโดยมีจ่าหน้าซองเป็นชื้อเธอแต่พออ่านข้างในกับมีลายมือเป็นภาษาไทยที่ไม่ค่อยบรรจงและเขียนผิดจนอ่านไปแค่บรรทัดนึงก็ปวดหัวจะแย่แล้วแต่ก็พอจะจับใจความได้ว่า

    ผมชื่อเรจิอายุ12ปีมาจากญี่ปุ่นจะมาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ ป.ล.ผมต้องขอโทษด้วยถ้าเขียนผิดและมีลายมือเหมือนไก่เขี่ยนะครับแต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะนะช่วยเขียนให้มันเป็นคนแทนที่จะมานั่งขอโทษที่หลังไม่ดีกว่าหรอไงกันเนี่ย  เฮ้อ  เบื่อจริงเลย

     

    กลับมาที่ปัจจุบัน

    สวัสดีครับ ผมมัสสึโมโตครับ เป็นพ่อบ้านของตระกูลโยชิโอกะครับ  ผมจะนำนายน้อยเรจิมาฝากเป็นเวลาไม่จำกัดครับแต่ไม่ต้องห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายหรอครับเพราะว่าทุกๆเดือนจะมีเงินส่งเข้าบัญชีของคุณเป็นจำนวนหนึ่งครับพ่อบ้านมัสสึโมโตพูดแนะนำตัวและเงื่อนไขในเรื่องผลประโยชน์เมื่ออยู่กับเรจิเป็นภาษาไทยแบบกะท่อนกะแท่นแต่ก็ทำให้คนฟังเข้าใจได้ง่าย

    สวัสดีคะ คุณพ่อบ้าน หนูชื่อนิลคะสาวน้อยพูดด้วยน้ำเสียงเกรงใจเพราะพึ่งรู้ว่าคนที่เขียนจดหมาย(ไก่เขี่ยละสิไม่ว่า)เป็นคุณหนูตระกูลดังในญี่ปุ่น

    แต่จริงๆก็มีเหตุผลสำคัญบางอย่างเลยต้องนำมาฝากไว้นะครับ คือว่า....นายน้อยเป็นคนเอาแต่ใจและไม่เคยฟังใครจึงเป็นที่เอือมระอาของทุกคนในบ้าน เลยอยากให้คุณนิลช่วยแก้นิสัยของนายน้อยด้วยเถอะนะครับ

    คะ แต่ว่าเอาแต่ใจแค่ไหนก็ล่ะค่ะแต่พ่อบ้านมัสสึโมโตก็ยังไม่ทันได้ตอบก็มีเสียงแทรกขึ้นมาว่า

    ช้า  เมื่อไหร่จะมาถือกระเป๋าให้ฉันซักทีเนี่ยนิลได้ยินเด็กหนุ่มตะโกนมาจากหน้าบ้านเป็นภาษาไทยนิลจึงตะโกนตอบกลับไปว่า

    มีมือ  มีเท้า ก็ช่วยตัวเองบ้างสิ  ฉันไม่ใช่เมดนะถึงใช้ฉันอย่างเนี๊ยจึงทำให้คุณหนูเรจิถึงกับเหวอว่าเธอกล้าเถียงกับคนใหญ่คนโตของญี่ปุ่นอย่างเขา  ทันใดนั้นเองรถที่เขานั่งมาจู่ๆก็ขับออกไปโดยมีกระเป๋าเดินทาง 2 ใบวางอยู่  นิลยิ้มเยาะพลางเดินเข้าบ้านราวกับไม่เห็นตัวตนของเขา

    นี้เธอไม่คิดจะช่วยกับเลยหรอกหรอเรจิพูดอย่างโอดครวน

    ใช่  เป็นผู้ชายก็ช่วยตัวเองหน่อยสิยะ นิลรีบพูดอย่างตัดบท

    ว่าแต่เธอชื่ออะไรหรอนิลถามทันที่ทีปิดประตูบ้านเสร็จเพราะเธอไม่มั่นใจว่าชื่อเรจิหรือเปล่า

    ฉันหนะหรอ ชื่อโยชิโอกะ  เรจิ แล้วเธอละเรจิถามกลับทันที่

    ฉันชื่อนิลกาล เรียกสั้นๆว่า นิล ก็ได้นะไม่ว่านิลพูดขนัดที่กำลังหาห้องให้เรจิ

    แล้วนายเรียนที่ไหนหรอนิลถามต่อทันที

    ไม่รู้เหมือนกัน เขายังไม่ได้บอก

    เฮ้อ ก็...ได้เมื่อไหร่ก็ค่อยมาบอกก็แล้วกันนะ

    เอาเป็นว่านายนอนห้องนี้ก็แล้วกันนะนิลพูดพร้อมชี้ไปที่ห้องนอนที่ยังว่างอยู่ซึ่งจะบอกว่าเล็กก็ไม่ใช้เพราะมีขนาดเกือบเท่าห้องของเขาที่ญี่ปุ่นและมีเฟอร์นิเจอร์ครบจนเกือบจะเป็นห้องทั่วไปขาดแต่เพียงผู้อยู่อาศัย

     “ห้องนี้ได้ไหมหรือว่าเล็กไปสำหรับคุณหนูอย่างนายนิลถามปนประชดแต่พอได้เห็นเรจิทำหน้าตกใจก็ยิ้มออกมาอยากเรียบๆ

    ด...ได้สิกำลังดีเลยขัดแต่ว่าฝุ่นหนาไปหน่อยก็แค่นั้นเรจิพูดพลางกับเอามือลูบฝุ่นที่หนาแล้วเอามาเป่าดู

    “’งั้นเอาเป็นว่าวันนี้มาช่วยทำความสะอาดห้องนายกันดีกว่านิลพูดพร้อมเดินเข้าห้องของเด็กหนุ่ม

    ได้เรจิพูดพร้อมหิ้วถังซึ่งไม่รู้ว่ามาอยู่หน้าห้องตั้งแต่เมื่อไรเข้าห้องไปและพร้อมที่จะเริ่มทำความสะอาดกัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น